ลดหย่อนภาษี 2565 มีอะไรบ้าง คำนวณกันก่อนยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีนี้

ธุรกิจ-ยื่นภาษีเงิน

ยื่นภาษีปี 2565 รวมรายการลดหย่อนภาษี 2565 ล่าสุด มีอะไรบ้าง ก่อนนำมาคำนวณยื่้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

เป็นประจำทุกปีที่มนุษย์เงินเดือน หรือผู้มีราย ได้จะต้องวางแผน และคำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อจะนำมาหักลดหย่อนภาษี เพื่อที่จะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ ซึ่งในปี 2565 ผู้มีเงินได้สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีอะไรได้บ้าง เพื่อที่จะยื่นภาษี 2565 ในช่วงต้นปี 2566 ถ้าพร้อมแล้วไปเช็คลิสต์พร้อมๆ กันเลย

รายการลดหย่อนภาษี 2565 มีอะไรบ้าง?

กลุ่มลดหย่อนภาษีส่วนตัวและครอบครัว
1. ลดหย่อนส่วนบุคคล : จำนวน 60,000 บาท

2. ลดหย่อนคู่สมรสที่ไม่มีเงินได้ : จำนวน 60,000 บาท

สำหรับสามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรส
คู่สมรสต้องไม่มีเงินได้ หรือมีเงินได้แต่ยื่นแบบฯ รวมกัน
3. ลดหย่อนบุตร : จำนวน 30,000 บาทต่อคน

ต้องเป็นบุตรตามกฎหมาย
บุตรบุญธรรใช้ได้ไม่เกิน 3 คน
บุตรอายุไม่เกิน 20 ปี
หากบุตรอายุ 21-25 ปี ต้องกำลังศึกษาในระดับชั้น ปวส. ขึ้นไป
บุตรมีเงินได้ในปีนั้นไม่เกิน 30,000 บาท
ลดหย่อนบุตรคนที่ 2 : จำนวน 30,000 บาทต่อคน
คลอดบุตรคนที่ 2 ขึ้นไป ตั้งแต่ปี 2561
เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย
4. ลดหย่อนค่าฝากครรภ์ และค่าคลอดบุตร : หักค่าใช้จ่ายตามจริงสูงสุดไม่เกินปีละ 60,000 บาท

ต้องใช้เอกสารใบรับรองแพทย์และใบเสร็จรับเงินจากสถานพยาบาลที่เกิดขึ้นจริงในช่วงวันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค. 65
สามีใช้สิทธิได้หากภรรยาไม่มีเงินได้ หรือมีเงินได้แต่ยื่นแบบฯ รวมกัน
5. ลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดา-มารดา : จำนวนคนละ 30,000 บาท ไม่เกิน 4 คน รวม 120,000 บาท

บิดา-มารดาอายุ 60 ปีขึ้นไป
มีเงินได้ในปีนั้นไม่เกิน 30,000 บาท
ลูกสามารถใช้สิทธิได้เพียงคนเดียว
6. ลดหย่อนค่าอุปการะคนพิการหรือคนทุพพลภาพ : จำนวนคนละ 60,000 บาท

ผู้พิการต้องมีบัตรประจำตัวคนพิการ
ผู้พิการมีเงินได้ในปีนั้นไม่เกิน 30,000 บาท

กลุ่มลดหย่อนภาษี กลุ่มประกันชีวิต-การลงทุน
1. ประกันสังคม : ลดหย่อนภาษีได้ตามจริง

ผู้ประกันตนมาตรา 33 ลดหย่อนได้สูงสุด 6,300 บาท (จากปกติ 9,000 บาท) เพราะมีการปรับลดเงินสมทบประกันสังคมในเดือน พ.ค.-ก.ค. และเดือน ต.ค.-ธ.ค. 65
ผู้ประกันตนมาตรา 39 ลดหย่อนได้สูงสุด 3,585 บาท เพราะมีการปรับลดเงินสมทบประกันสังคมในเดือน พ.ค.-ก.ค. และเดือน ต.ค.-ธ.ค. 65
ผู้ประกันตนมาตรา 40 ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 644-2,760 บาท ตามที่จ่ายจริง เพราะได้มีการปรับลดเงินสมทบตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ค. 65
2. ประกันชีวิตทั่วไป หรือเงินฝากเพื่อสงเคราะห์ชีวิต : ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท

มีความคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป
มีผลตอบแทนคืนไม่เกิน 20% ของดอกเบี้ย
3. ประกันชีวิตคู่สมรสที่ไม่มีเงินได้ : ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10,000 บาท

สามี-ภรรยาต้องจดทะเบียนสมรส
ต้องมีสถานะเป็นสามี-ภรรยาตลอดทั้งปี
4. ประกันสุขภาพตัวเอง : ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 25,000 บาท

เมื่อรวมเบี้ยประกันชีวิตต้องไม่เกิน 100,000 บาท
5. ประกันสุขภาพ บิดา-มารดา : ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท

บิดา-มารดามีเงินได้ในปีนั้นไม่เกิน 30,000 บาท
บุตรบุญธรรมใช้สิทธิไม่ได้
บุตรหลายคนหารเฉลี่ยกันได้
6. ประกันชีวิตบำนาญ : ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุด 15% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท

7. กองทุนรวม SSF (Super Savings Fund) * หรือกองทุนรวม SSF : ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท

8. กองทุนรวม RMF (Retirement Mutual Fund หรือ RMF) * : ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 500,000 บาท

9. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ* : ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินปีละ 10,000 บาท ส่วนจำนวนเงินที่เกิน 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 15% ของรายได้ และไม่เกิน 490,000 บาท จะได้รับยกเว้น ไม่ต้องนำไปรวมกับเงินได้ที่ต้องเสียภาษี

10. กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) * : ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท

11. กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน* : ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท

12. กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) * : ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดปีละ 13,200 บาท

ธุรกิจ-ยื่นภาษีเงิน

*หมายเหตุ ข้อ 6-12 เมื่อรวมเงินที่ซื้อ ประกันชีวิตบำนาญ, กองทุนรวม SSF, กองทุนรวม RMF, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และกองทุนการออมแห่งชาติ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

กลุ่มลดหย่อนภาษี กลุ่มอสังหาริมทรัพย์
ดอกเบี้ย เงินกู้ยืมเพื่อการมีที่อยู่อาศัย ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท

เป็นการกู้ยืมเพื่อซื้อ เช่าซื้อ หรือสร้างที่อยู่อาศัยบนที่ดินของตัวเองหรือบนที่ดินที่มีสิทธิครอบครอง ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรืออาคาร หรือคอนโดมิเนียม โดยเราต้องอยู่อาศัยด้วย เว้นแต่ มีเหตุจำเป็นหรือเหตุสุดวิสัย
เป็นการกู้ยืมจากสถาบันการเงินภายในประเทศ เช่น ธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐต่าง ๆ โดยทรัพย์สินที่กู้ต้องใช้มาเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันการกู้ (จำนอง) ด้วย
หากมีการกู้สำหรับที่อยู่อาศัยมากกว่า 1 แห่ง สามารถใช้ลดหย่อนรวมกันได้ทุกแห่ง แต่ต้องไม่เกิน 100,000 บาท
กรณีกู้ร่วมกันหลายคน ก็ให้แบ่งดอกเบี้ยคนละเท่า ๆ กัน รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท

กลุ่มลดหย่อนภาษี กลุ่มเงินบริจาค
1. เงินบริจาคพรรคการเมือง : ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10,000 บาท

2. เงินบริจาคเพื่อการศึกษา การกีฬา การพัฒนาสังคม และโรงพยาบาลรัฐ ได้ : ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของเงินบริจาคตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน

ต้องเป็นสถานศึกษาที่ ศธ. กำหนด
บริจาคผ่าน e-Donation เท่านั้น
3. เงินบริจาคมให้สถานพยาบาลของรัฐ : ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของจำนวนที่จ่ายจริง (รวมกับเงินบริจาคอื่ ต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนอื่นแล้ว)

ต้องเป็นสถานพยาบาลของราชการ
4. เงินบริจาคสนับสนุนการกีฬา : ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของจำนวนที่จ่ายจริง (รวมกับเงินบริจาคอื่ ต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนอื่นแล้ว)

ต้องเป็นหน่วยงานด้านกีฬาที่สังกัดสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย
5. เงินบริจาคเพื่อการพัฒนาสังคม : ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของจำนวนที่จ่ายจริง (รวมกับเงินบริจาคอื่ ต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนอื่นแล้ว)

ต้องบริจาคให้หน่วยงานที่กำหนด เช่น กองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา, กองทุนยุติธรรม และการจัดหาหนังสือ หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อส่งเสริมการอ่าน
6. เงินบริจาคให้แก่มูลนิธิด้านสาธารณสุข : ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของจำนวนที่จ่ายจริง (รวมกับเงินบริจาคอื่ ต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนอื่นแล้ว)

บริจาคผ่าน e-Donation เท่านั้น
ต้องบริจาคให้มูลนิธิที่กำหนด เช่น มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี, มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือมูลนิธิรามาธิบดี
7. เงินบริจาคให้กองทุนส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม : ตามที่บริจาคจริง (รวมกับเงินบริจาคอื่น ต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนอื่นแล้ว)

บริจาคผ่าน e-Donation เท่านั้น
8. เงินบริจาคทั่วไป : ตามที่บริจาคจริง (รวมกับเงินบริจาคอื่น ต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนอื่นแล้ว)

เป็นการบริจาคเงินเพื่อสาธารณกุศล เช่น บริจาคให้วัด มูลนิธิ สมาคม สถานสงเคราะห์ ฯลฯ

กลุ่มลดหย่อนภาษีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
โครงการช้อปดีมีคืน : ตามจำนวนจริงที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท โดยจะต้องซื้อสินค้า-บริการจากร้านค้าที่จด VAT และออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปได้ โดยจะต้องซื้อสินค้าภายในกรอบระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนด

อ่านข่าวเพิ่มเติม : ข่าวดี! กบง. เคาะตรึงราคาก๊าซหุงต้ม 423 บาทต่อถัง ถึงสิ้นเดือน มิ.ย. นี้